คู่มือการใช้งานเครื่องโอโซน Cyber Air (ถาม–ตอบ)
1. จะเลือกรุ่นเครื่องโอโซนอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน?
เลือกรุ่นโดยพิจารณาจากประเภทพื้นที่และขนาดงาน ดังนี้:
- บ้านพักอาศัย / ครัวเรือน: เลือกรุ่นที่มีกำลังผลิต 1,000–3,000 mg/hr
- ร้านอาหาร / ห้องครัวเชิงพาณิชย์: เลือกรุ่นที่มีกำลังผลิต 3,000–6,000 mg/hr
- โรงพยาบาล / งานอุตสาหกรรม: เลือกรุ่นที่กำลังผลิตตั้งแต่ 6,000 mg/hr ขึ้นไป
ระบบควบคุม: แนะนำให้เลือกรุ่นที่มาพร้อม Ozone Controller (ปรับค่า ppm ได้ละเอียด) เพื่อควบคุมความเข้มข้นโอโซนอย่างแม่นยำ
วัสดุ & ปั๊มอากาศ: กรุณาเลือกรุ่นที่ใช้ Oil‐free Dry Air Pump เพื่อยืดอายุหลอดและป้องกันความชื้นย้อนกลับ
2. การติดตั้งเบื้องต้นต้องทำอย่างไร?
2.1 ตำแหน่งติดตั้ง
- วางเครื่องในพื้นที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ห่างจากความร้อนและแสงแดด
- เว้นระยะรอบเครื่องอย่างน้อย 10–15 ซม. ห้ามบังช่องระบายอากาศ เพื่อป้องกันเครื่องร้อนเกินไป
2.2 การเดินท่อส่งโอโซน
- ใช้ท่อ PVC หรือ Silicone คุณภาพสูง ทนแรงดัน ไม่รั่วซึม
- หลีกเลี่ยงท่อที่มีความยาวเกินไป เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการส่งโอโซนลดลง
3. การปรับค่า Flow & Concentration ควรทำอย่างไร?
เริ่มตั้งค่าความเข้มข้นโอโซน (ppm) ที่ระดับต่ำก่อน แล้วปรับเพิ่มตามขนาดพื้นที่:
- เริ่มต้นที่ประมาณ 0.1–0.3 ppm
- เมื่อพื้นที่ใหญ่ขึ้นหรือมีภาระงานฆ่าเชื้อมาก ค่อยปรับค่าเพิ่มตามความเหมาะสม
ควรตรวจสอบค่า ppm ด้วย O3 Meter (หรือเซ็นเซอร์โอโซนในตัวเครื่อง) เพื่อความแม่นยำ และหลีกเลี่ยงการเกินค่ามาตรฐานที่อาจเป็นอันตราย
4. Cycle การฉายโอโซน ควรเป็นอย่างไร?
- ปรับเวลาเปิดเครื่องไม่เกิน 30–60 นาทีต่อครั้ง เพื่อให้โอโซนทำปฏิกิริยาฆ่าเชื้อได้เต็มประสิทธิภาพ
- หลังใช้งาน ให้พักเครื่องประมาณ 15–30 นาที เพื่อยืดอายุหลอด O3 และรอให้โอโซนสลายตัวก่อนเข้าพื้นที่
ในกรณีใช้งานในพื้นที่ที่มีคนสัญจร ควรฉายโอโซนในช่วงเวลาที่ไม่มีคน หรือเว้นระยะก่อนเข้าใช้งานจริงเสมอ
5. ถ้านำน้ำเข้าระบบ ต้องเตรียมคุณภาพน้ำอย่างไร?
- ใช้น้ำที่สะอาด ปราศจากตะกอน และสารเคมีตกค้าง
- หากใช้น้ำประปา ควรกรองหยาบ (Pre‐Filter) ก่อนเพื่อลดการอุดตันของหลอดโอโซน
การเตรียมน้ำให้สะอาดจะช่วยให้โอโซนสลายตัวเป็นออกซิเจนได้รวดเร็ว และไม่ทิ้งสารตกค้างในน้ำ
6. การดูแลรักษาเครื่องโอโซนให้ใช้งานได้นาน ต้องทำอย่างไร?
6.1 การทำความสะอาดอุปกรณ์
- ตรวจเช็ก Pre‐filter ทุก 1–2 เดือน และล้างด้วยน้ำสะอาด
- เปลี่ยนหลอดโอโซน (O3 Tube) ตามอายุการใช้งาน (ประมาณ 5,000–8,000 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม)
6.2 การเช็กระบบควบคุม
- ทดสอบค่า ppm ด้วย O3 Meter อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความแม่นยำ
- หากพบว่าค่าที่อ่านได้ผิดเพี้ยน ควรส่งศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบ Sensor หรือ Controller
6.3 การหลีกเลี่ยงความชื้น
- หลีกเลี่ยงการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เพราะจะทำให้หลอดเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
- หากจำเป็น ให้ใช้ Dry Air Pump หรือติดตั้ง Silica Gel Desiccant เพื่อดูดซับความชื้นก่อนเข้าเครื่อง
7. บริการหลังการขายและการรับประกันเป็นอย่างไร?
- กรมสิทธิ์รับประกันสินค้า: รับประกันระยะเวลา 1–2 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่น (โปรดตรวจเช็กเงื่อนไขเฉพาะรุ่น)
- ศูนย์บริการใกล้บ้าน: เลือกซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่มีศูนย์บริการใกล้บ้าน เพื่อความรวดเร็วเมื่อเกิดปัญหา
- อะไหล่สำรอง: ขอสำรองอะไหล่สำคัญ เช่น ปั๊มลม, หลอดโอโซน เผื่อสำหรับใช้งานฉุกเฉิน
สรุปแนะนำ:
- เลือกรุ่นให้เหมาะสมกับลักษณะงาน
- ติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม (แห้ง โปร่ง)
- ปรับค่า Flow & Concentration อย่างระมัดระวัง
- ดูแลทำความสะอาดและเปลี่ยนหลอดสม่ำเสมอ
- ใช้บริการหลังการขายจากศูนย์บริการที่น่าเชื่อถือ
8. การใช้งานโอโซนปลอดภัยหรือไม่?
โอโซนมีฤทธิ์ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ หากความเข้มข้นสูงเกินมาตรฐาน จึงควรใช้งานอย่างระมัดระวัง:
- อย่าอยู่ในพื้นที่ขณะเครื่องทำงาน ให้รอจนโอโซนสลายตัวก่อนเข้าใช้งาน
- ตรวจสอบ ppm โดยเซ็นเซอร์หรือ O3 Meter เพื่อให้ไม่เกินค่าปลอดภัย (ทั่วไป < 0.1 ppm ถ้ามีคนอยู่ร่วม)
- หากใช้งานในห้องปิด ควรให้มีการระบายอากาศหลังการฉายโอโซนประมาณ 10–15 นาที
หากปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น ถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม
9. โอโซนฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้หรือไม่?
โอโซนเป็นสารออกซิไดซ์แรงสูง สามารถทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรียและไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
- ในการฉายโอโซนในอากาศ จะทำให้ผนังเซลล์ของเชื้อแตกสลายภายในไม่กี่นาที
- สำหรับน้ำ โอโซนจะทำปฏิกิริยากับโปรตีนและเอนไซม์ในเซลล์เชื้อโรค ทำให้เชื้อสลายตัวเป็นออกซิเจนและน้ำ
- อัตราการฆ่าเชื้อขึ้นกับความเข้มข้นและระยะเวลาที่ฉายโอโซน (เช่น PPP 0.1–0.3 ppm 10–15 นาที)
ทั้งนี้ ควรควบคุม ppm ให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองแก่ผู้ใช้
10. ควรใช้งานโอโซนนานเท่าไรจึงจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ?
ระยะเวลาใช้โอโซนขึ้นกับวัตถุประสงค์และขนาดพื้นที่:
- สำหรับห้องพักอาศัยขนาดเล็ก (20–30 ตร.ม.) ใช้ 15–20 นาที ที่ 0.1–0.2 ppm แล้วพัก 10 นาที
- ห้องครัวร้านอาหารหรือห้องประชุมขนาดกลาง (30–50 ตร.ม.) ใช้ 20–30 นาที ที่ 0.2–0.3 ppm แล้วพัก 15 นาที
- พื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลหรืออุตสาหกรรม อาจใช้ 30–60 นาที ที่ 0.3–0.5 ppm แล้วพัก 20–30 นาที
หลังฉาย ควรให้โอโซนสลายตัวจน ppm < 0.05 ก่อนให้คนเข้าใช้งานใหม่
11. ทำความสะอาดหลอดโอโซนอย่างไร?
หลอดโอโซนต้องไม่โดนน้ำโดยตรง ให้ใช้วิธีดังนี้:
- ปิดเครื่องและรอให้หลอดเย็นสนิทก่อน
- ใช้ผ้าแห้งหรือแปรงนุ่ม ๆ เช็ดเอาฝุ่นละอองและคราบไขมันบนหลอดออก
- ห้ามใช้น้ำโดยตรง เพราะอาจทำให้หลอดช็อตได้
- หากมีคราบสกปรกติดแน่น ให้ใช้สำลีก้านจุ่มแอลกอฮอล์เช็ดเบา ๆ แล้วเช็ดด้วยผ้าแห้งทันที
ควรทำความสะอาดทุก 3–6 เดือน หรือบ่อยกว่าเมื่อใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นสูง
12. ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเบื้องต้นประมาณเท่าไร?
ขึ้นกับขนาดและประเภทงาน รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่ต้องใช้:
- เครื่องโอโซนบ้านพัก กำลังผลิต 1,000–3,000 mg/hr ราคาตัวเครื่อง 5,000–10,000 บาท
- เครื่องทำน้ำโอโซน (Ozone Water Generator) ราคาตัวเครื่อง 8,000–15,000 บาท
- อุปกรณ์เสริม เช่น ท่อต่อโอโซน ปั๊มอัดอากาศ ประมาณ 1,000–3,000 บาท
- ค่าแรงช่างติดตั้งทั่วไป 1,000–2,000 บาท ต่อจุด (ขึ้นกับพื้นที่และความยากง่าย)
เมื่อรวมทั้งหมดอาจเริ่มต้นที่ 7,000–15,000 บาท สำหรับงานบ้านพักเล็กๆ และอาจสูงขึ้นสำหรับงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
✅ ไรฝุ่นคืออะไร?
ไรฝุ่นเป็นสัตว์ขนาดเล็ก 0.1–0.3 มม. พบมากในที่นอน ผ้าม่าน พรม และโซฟา มูลและซากไรฝุ่นมีโปรตีนที่กระตุ้นโรคภูมิแพ้ เช่น โรคหอบหืดและไซนัสอักเสบ
✅ โอโซนช่วยลดไรฝุ่นได้อย่างไร?
โอโซน (O₃) ไม่ได้ฆ่าไรฝุ่นตัวโตโดยตรง แต่สามารถ:
- ทำลายโปรตีนจากมูลไรฝุ่นที่ก่อภูมิแพ้
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราที่อาศัยร่วมในฝุ่น
- ย่อยสลายสารก่อภูมิแพ้ ทำให้อาการแพ้ลดลง
✅ วิธีใช้เครื่องโอโซนกำจัดไรฝุ่น?
1. เตรียมห้องให้ปิดสนิท และคน/สัตว์เลี้ยงออกจากห้องก่อน
2. ตั้งเครื่องโอโซน กำหนดเวลา 15–30 นาที (ใช้ Timer)
3. เลือกโหมด “Air” หรือ “Water” ตามต้องการ
4. กด Start แล้วออกจากห้อง รอจนโอโซนสลายตัว (~30–60 นาที)
5. กลับเข้าห้อง เปิดหน้าต่างระบายอากาศก่อนใช้งานต่อ
✅ ข้อควรระวังในการใช้โอโซน?
- ห้ามอยู่ในห้องขณะโอโซนทำงาน
- ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทก่อนใช้
- ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยหัวใจหรือมีระบบหายใจไม่ปกติ
- สลายตัวภายใน 30–60 นาที ควรรอให้ระบบระบายอากาศก่อนเข้าใช้งาน
✅ แนะนำเครื่องโอโซนสำหรับกำจัดไรฝุ่น
เลือกเครื่องที่มีคุณสมบัติ:
- กำลังผลิต 500–1,000 mg/hr
- Timer ตั้งเวลาได้ 0–60 นาที
- ใช้ไฟ 12V/220V ปลอดภัย
- ระบบควบคุม ppm อัจฉริยะ
เช่น: CWM‑1000, CB‑800
✅ โอโซนสามารถย่อยสลายสารก่อภูมิแพ้ Der p1/Der f1 และฆ่า Staphylococcus aureus, E. coli ได้ภายใน 15 นาที? (Link Paper)
มีงานวิจัยยืนยันดังนี้:
-
Goodman & Hughes, 2004: “The effect of corona discharge on dust mite and cat allergens”
PDF: eprints.soton.ac.uk/258815/1/mite_and_cat.pdf
-
Inactivation of E. coli O157:H7 by ozone in water, 2019
PMC: ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6863310
-
Ozonated saline vs. Staphylococcus aureus, 2021
PDF: wiley.com/doi/pdf/10.1111/iwj.12412
คู่มือการใช้งานเครื่องโอโซน Cyber Air (ถาม–ตอบ)
1. จะเลือกรุ่นเครื่องโอโซนอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน?
เลือกรุ่นโดยพิจารณาจากประเภทพื้นที่และขนาดงาน ดังนี้:
- บ้านพักอาศัย / ครัวเรือน: เลือกรุ่นที่มีกำลังผลิต 1,000–3,000 mg/hr
- ร้านอาหาร / ห้องครัวเชิงพาณิชย์: เลือกรุ่นที่มีกำลังผลิต 3,000–6,000 mg/hr
- โรงพยาบาล / งานอุตสาหกรรม: เลือกรุ่นที่กำลังผลิตตั้งแต่ 6,000 mg/hr ขึ้นไป
ระบบควบคุม: แนะนำให้เลือกรุ่นที่มาพร้อม Ozone Controller (ปรับค่า ppm ได้ละเอียด) เพื่อควบคุมความเข้มข้นโอโซนอย่างแม่นยำ
วัสดุ & ปั๊มอากาศ: กรุณาเลือกรุ่นที่ใช้ Oil‐free Dry Air Pump เพื่อยืดอายุหลอดและป้องกันความชื้นย้อนกลับ
2. การติดตั้งเบื้องต้นต้องทำอย่างไร?
2.1 ตำแหน่งติดตั้ง
- วางเครื่องในพื้นที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ห่างจากความร้อนและแสงแดด
- เว้นระยะรอบเครื่องอย่างน้อย 10–15 ซม. ห้ามบังช่องระบายอากาศ เพื่อป้องกันเครื่องร้อนเกินไป
2.2 การเดินท่อส่งโอโซน
- ใช้ท่อ PVC หรือ Silicone คุณภาพสูง ทนแรงดัน ไม่รั่วซึม
- หลีกเลี่ยงท่อที่มีความยาวเกินไป เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการส่งโอโซนลดลง
3. การปรับค่า Flow & Concentration ควรทำอย่างไร?
เริ่มตั้งค่าความเข้มข้นโอโซน (ppm) ที่ระดับต่ำก่อน แล้วปรับเพิ่มตามขนาดพื้นที่:
- เริ่มต้นที่ประมาณ 0.1–0.3 ppm
- เมื่อพื้นที่ใหญ่ขึ้นหรือมีภาระงานฆ่าเชื้อมาก ค่อยปรับค่าเพิ่มตามความเหมาะสม
ควรตรวจสอบค่า ppm ด้วย O3 Meter (หรือเซ็นเซอร์โอโซนในตัวเครื่อง) เพื่อความแม่นยำ และหลีกเลี่ยงการเกินค่ามาตรฐานที่อาจเป็นอันตราย
4. Cycle การฉายโอโซน ควรเป็นอย่างไร?
- ปรับเวลาเปิดเครื่องไม่เกิน 30–60 นาทีต่อครั้ง เพื่อให้โอโซนทำปฏิกิริยาฆ่าเชื้อได้เต็มประสิทธิภาพ
- หลังใช้งาน ให้พักเครื่องประมาณ 15–30 นาที เพื่อยืดอายุหลอด O3 และรอให้โอโซนสลายตัวก่อนเข้าพื้นที่
ในกรณีใช้งานในพื้นที่ที่มีคนสัญจร ควรฉายโอโซนในช่วงเวลาที่ไม่มีคน หรือเว้นระยะก่อนเข้าใช้งานจริงเสมอ
5. ถ้านำน้ำเข้าระบบ ต้องเตรียมคุณภาพน้ำอย่างไร?
- ใช้น้ำที่สะอาด ปราศจากตะกอน และสารเคมีตกค้าง
- หากใช้น้ำประปา ควรกรองหยาบ (Pre‐Filter) ก่อนเพื่อลดการอุดตันของหลอดโอโซน
การเตรียมน้ำให้สะอาดจะช่วยให้โอโซนสลายตัวเป็นออกซิเจนได้รวดเร็ว และไม่ทิ้งสารตกค้างในน้ำ
6. การดูแลรักษาเครื่องโอโซนให้ใช้งานได้นาน ต้องทำอย่างไร?
6.1 การทำความสะอาดอุปกรณ์
- ตรวจเช็ก Pre‐filter ทุก 1–2 เดือน และล้างด้วยน้ำสะอาด
- เปลี่ยนหลอดโอโซน (O3 Tube) ตามอายุการใช้งาน (ประมาณ 5,000–8,000 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม)
6.2 การเช็กระบบควบคุม
- ทดสอบค่า ppm ด้วย O3 Meter อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความแม่นยำ
- หากพบว่าค่าที่อ่านได้ผิดเพี้ยน ควรส่งศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบ Sensor หรือ Controller
6.3 การหลีกเลี่ยงความชื้น
- หลีกเลี่ยงการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เพราะจะทำให้หลอดเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
- หากจำเป็น ให้ใช้ Dry Air Pump หรือติดตั้ง Silica Gel Desiccant เพื่อดูดซับความชื้นก่อนเข้าเครื่อง
7. บริการหลังการขายและการรับประกันเป็นอย่างไร?
- กรมสิทธิ์รับประกันสินค้า: รับประกันระยะเวลา 1–2 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่น (โปรดตรวจเช็กเงื่อนไขเฉพาะรุ่น)
- ศูนย์บริการใกล้บ้าน: เลือกซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่มีศูนย์บริการใกล้บ้าน เพื่อความรวดเร็วเมื่อเกิดปัญหา
- อะไหล่สำรอง: ขอสำรองอะไหล่สำคัญ เช่น ปั๊มลม, หลอดโอโซน เผื่อสำหรับใช้งานฉุกเฉิน
สรุปแนะนำ:
- เลือกรุ่นให้เหมาะสมกับลักษณะงาน
- ติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม (แห้ง โปร่ง)
- ปรับค่า Flow & Concentration อย่างระมัดระวัง
- ดูแลทำความสะอาดและเปลี่ยนหลอดสม่ำเสมอ
- ใช้บริการหลังการขายจากศูนย์บริการที่น่าเชื่อถือ
8. การใช้งานโอโซนปลอดภัยหรือไม่?
โอโซนมีฤทธิ์ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ หากความเข้มข้นสูงเกินมาตรฐาน จึงควรใช้งานอย่างระมัดระวัง:
- อย่าอยู่ในพื้นที่ขณะเครื่องทำงาน ให้รอจนโอโซนสลายตัวก่อนเข้าใช้งาน
- ตรวจสอบ ppm โดยเซ็นเซอร์หรือ O3 Meter เพื่อให้ไม่เกินค่าปลอดภัย (ทั่วไป < 0.1 ppm ถ้ามีคนอยู่ร่วม)
- หากใช้งานในห้องปิด ควรให้มีการระบายอากาศหลังการฉายโอโซนประมาณ 10–15 นาที
หากปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น ถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม
9. โอโซนฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้หรือไม่?
โอโซนเป็นสารออกซิไดซ์แรงสูง สามารถทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรียและไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
- ในการฉายโอโซนในอากาศ จะทำให้ผนังเซลล์ของเชื้อแตกสลายภายในไม่กี่นาที
- สำหรับน้ำ โอโซนจะทำปฏิกิริยากับโปรตีนและเอนไซม์ในเซลล์เชื้อโรค ทำให้เชื้อสลายตัวเป็นออกซิเจนและน้ำ
- อัตราการฆ่าเชื้อขึ้นกับความเข้มข้นและระยะเวลาที่ฉายโอโซน (เช่น PPP 0.1–0.3 ppm 10–15 นาที)
ทั้งนี้ ควรควบคุม ppm ให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองแก่ผู้ใช้
10. ควรใช้งานโอโซนนานเท่าไรจึงจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ?
ระยะเวลาใช้โอโซนขึ้นกับวัตถุประสงค์และขนาดพื้นที่:
- สำหรับห้องพักอาศัยขนาดเล็ก (20–30 ตร.ม.) ใช้ 15–20 นาที ที่ 0.1–0.2 ppm แล้วพัก 10 นาที
- ห้องครัวร้านอาหารหรือห้องประชุมขนาดกลาง (30–50 ตร.ม.) ใช้ 20–30 นาที ที่ 0.2–0.3 ppm แล้วพัก 15 นาที
- พื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลหรืออุตสาหกรรม อาจใช้ 30–60 นาที ที่ 0.3–0.5 ppm แล้วพัก 20–30 นาที
หลังฉาย ควรให้โอโซนสลายตัวจน ppm < 0.05 ก่อนให้คนเข้าใช้งานใหม่
11. ทำความสะอาดหลอดโอโซนอย่างไร?
หลอดโอโซนต้องไม่โดนน้ำโดยตรง ให้ใช้วิธีดังนี้:
- ปิดเครื่องและรอให้หลอดเย็นสนิทก่อน
- ใช้ผ้าแห้งหรือแปรงนุ่ม ๆ เช็ดเอาฝุ่นละอองและคราบไขมันบนหลอดออก
- ห้ามใช้น้ำโดยตรง เพราะอาจทำให้หลอดช็อตได้
- หากมีคราบสกปรกติดแน่น ให้ใช้สำลีก้านจุ่มแอลกอฮอล์เช็ดเบา ๆ แล้วเช็ดด้วยผ้าแห้งทันที
ควรทำความสะอาดทุก 3–6 เดือน หรือบ่อยกว่าเมื่อใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นสูง
12. ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเบื้องต้นประมาณเท่าไร?
ขึ้นกับขนาดและประเภทงาน รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่ต้องใช้:
- เครื่องโอโซนบ้านพัก กำลังผลิต 1,000–3,000 mg/hr ราคาตัวเครื่อง 5,000–10,000 บาท
- เครื่องทำน้ำโอโซน (Ozone Water Generator) ราคาตัวเครื่อง 8,000–15,000 บาท
- อุปกรณ์เสริม เช่น ท่อต่อโอโซน ปั๊มอัดอากาศ ประมาณ 1,000–3,000 บาท
- ค่าแรงช่างติดตั้งทั่วไป 1,000–2,000 บาท ต่อจุด (ขึ้นกับพื้นที่และความยากง่าย)
เมื่อรวมทั้งหมดอาจเริ่มต้นที่ 7,000–15,000 บาท สำหรับงานบ้านพักเล็กๆ และอาจสูงขึ้นสำหรับงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
✅ ไรฝุ่นคืออะไร?
ไรฝุ่นเป็นสัตว์ขนาดเล็ก 0.1–0.3 มม. พบมากในที่นอน ผ้าม่าน พรม และโซฟา มูลและซากไรฝุ่นมีโปรตีนที่กระตุ้นโรคภูมิแพ้ เช่น โรคหอบหืดและไซนัสอักเสบ
✅ โอโซนช่วยลดไรฝุ่นได้อย่างไร?
โอโซน (O₃) ไม่ได้ฆ่าไรฝุ่นตัวโตโดยตรง แต่สามารถ:
- ทำลายโปรตีนจากมูลไรฝุ่นที่ก่อภูมิแพ้
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราที่อาศัยร่วมในฝุ่น
- ย่อยสลายสารก่อภูมิแพ้ ทำให้อาการแพ้ลดลง
✅ วิธีใช้เครื่องโอโซนกำจัดไรฝุ่น?
1. เตรียมห้องให้ปิดสนิท และคน/สัตว์เลี้ยงออกจากห้องก่อน 2. ตั้งเครื่องโอโซน กำหนดเวลา 15–30 นาที (ใช้ Timer) 3. เลือกโหมด “Air” หรือ “Water” ตามต้องการ 4. กด Start แล้วออกจากห้อง รอจนโอโซนสลายตัว (~30–60 นาที) 5. กลับเข้าห้อง เปิดหน้าต่างระบายอากาศก่อนใช้งานต่อ
✅ ข้อควรระวังในการใช้โอโซน?
- ห้ามอยู่ในห้องขณะโอโซนทำงาน - ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทก่อนใช้ - ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยหัวใจหรือมีระบบหายใจไม่ปกติ - สลายตัวภายใน 30–60 นาที ควรรอให้ระบบระบายอากาศก่อนเข้าใช้งาน
✅ แนะนำเครื่องโอโซนสำหรับกำจัดไรฝุ่น
เลือกเครื่องที่มีคุณสมบัติ:
- กำลังผลิต 500–1,000 mg/hr
- Timer ตั้งเวลาได้ 0–60 นาที
- ใช้ไฟ 12V/220V ปลอดภัย
- ระบบควบคุม ppm อัจฉริยะ
✅ โอโซนสามารถย่อยสลายสารก่อภูมิแพ้ Der p1/Der f1 และฆ่า Staphylococcus aureus, E. coli ได้ภายใน 15 นาที? (Link Paper)
มีงานวิจัยยืนยันดังนี้:
- Goodman & Hughes, 2004: “The effect of corona discharge on dust mite and cat allergens” PDF: eprints.soton.ac.uk/258815/1/mite_and_cat.pdf
- Inactivation of E. coli O157:H7 by ozone in water, 2019 PMC: ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6863310
- Ozonated saline vs. Staphylococcus aureus, 2021 PDF: wiley.com/doi/pdf/10.1111/iwj.12412